สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มาแบบวิชาการจัดเต็ม ผู้เขียนได้จัดเนื้อหาที่น่าสนในสำหรับผู้ที่สนในอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งธุรกิจตัวแรกที่ผู้เขียนได้นำมาเสนอนั้น เป็นธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรม
โดยเนื้อหาที่จะนำเสนอนั้นแบ่งเนื้อหาออกเป็น
1. โครงสร้างทางธุรกิจ
2. สภาวะตลาดและแนวโน้มการแข่งขัน
3. คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ
4. รูปแบบและขั้นตอนการจัดตั้งธุรกิจ
5. กระบวนการดำเนินงาน
6. ข้อมูลทางการเงิน
7. บทศึกษาเชิงกลยุทธ์แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ
8. แนวทางการจัดทำมาตรฐาน
ซึ่งผู้เขียนขอเริ่มด้วยหัวข้อแรก นั่นก็คือ
1. โครงสร้างทางธุรกิจ
1.1 ภาพรวมธุรกิจ
ซึ่งธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมสามารถจําแนกเป็นสาขาย่อยได้ดังนี้ การให้คําปรึกษาด้านวิศวกรรม
- บริการออกแบบโครงสร่างฐานรากอาคาร
- บริการออกแบบเพื่อการติดตั้งเครื่องจักรสําหรับอาคาร
- บริการออกแบบโครงสร่างเพื่องานวิศวกรรมโยธา
- บริการออกแบบเพื่อการผลิตและอุตสาหกรรม
- บริการต่างๆท่ีเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและการติดตั้ง
- บริการอื่นๆ เช่น ด้านการสํารวจธรณีวิทยาและทรัพยากรธรรมชาติ
1. โครงสร้างทางธุรกิจ
2. สภาวะตลาดและแนวโน้มการแข่งขัน
3. คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ
4. รูปแบบและขั้นตอนการจัดตั้งธุรกิจ
5. กระบวนการดำเนินงาน
6. ข้อมูลทางการเงิน
7. บทศึกษาเชิงกลยุทธ์แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ
8. แนวทางการจัดทำมาตรฐาน
ซึ่งผู้เขียนขอเริ่มด้วยหัวข้อแรก นั่นก็คือ
1. โครงสร้างทางธุรกิจ
1.1 ภาพรวมธุรกิจ
ธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมหมายถึง การให้บริการที่ใช้ความรู้ การฝึกฝน
และประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมโดยประยุกต์ใช็ความรู็ทางด้านคณิตศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์ในการให้คําปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบท้ังในส่วนโครงสร้าง
ตัวอาคาร เครื่องจักร กระบวนการและขั้นตอนในการทํางาน เพื่อให้ตรงตามหลักการ
ออกแบบและระเบียบข้อบังคับในด้านต่างๆ
ตามกรอบการจําแนกธุรกิจบริการตามองค์การการค้าโลก (WTO) ธุรกิจ
ให้บริการวิศวกรรม จัดอยู่ในสาขาหลักที่ 1 สาขาบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ
(Business Services) ซึ่งในสาขานี้มีการจําแนกเป็นสาขาย่อยดังนี้
(1) การบริการวิชาชีพเฉพาะด้าน (Professional Services) ด้านกฎหมาย
ด้านบัญชี ด้านภาษี ด้านสถาปัตยกรรม ด้านวิศวกรรม ด้านผังเมือง ด้านการแพทย์ และทันตกรรม ด้านสัตววิทยา ด้านการพยาบาลและบําบัดทางแพทย้
(2) การให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ (Computer and Related Services)
ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจให้คําปรึกษาติดตั้งฮาร์ดแวร์ การให้บริการติดตั้งซอฟท์แวร์ การให้บริการฐานข้อมูล
(3) การให้บริการวิจัยและพัฒนา (Research and Development
Services) ให้บริการในการวิจัยและพัฒนาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม
(4) การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Services)
(5) ธุรกิจเช้าซื้อ (Rental/Leasing Services) เป็นบริการเช่าพาหนะและ
อุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ
(6) ธุรกิจอื่นๆ (Other Business Services) เช่น ธุรกิจถ่ายภาพ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ธุรกิจให้คําปรึกษาธุรกิจ เป็นต้น
ซึ่งธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมสามารถจําแนกเป็นสาขาย่อยได้ดังนี้ การให้คําปรึกษาด้านวิศวกรรม
- บริการออกแบบโครงสร่างฐานรากอาคาร
- บริการออกแบบเพื่อการติดตั้งเครื่องจักรสําหรับอาคาร
- บริการออกแบบโครงสร่างเพื่องานวิศวกรรมโยธา
- บริการออกแบบเพื่อการผลิตและอุตสาหกรรม
- บริการต่างๆท่ีเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและการติดตั้ง
- บริการอื่นๆ เช่น ด้านการสํารวจธรณีวิทยาและทรัพยากรธรรมชาติ
การบริการในธุรกิจให้บริการด่านวิศวกรรมส่วนใหญ่ครอบคลุม
- การดําเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมและเครื่องจักร รวมท้ัง
- การบํารุงรักษา
- บริการจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์
- บริการติดต้ังและทดสอบระบบงาน
- บริการศึกษาแผนงานและความเป็นไปได้ของโครงการวิศวกรรม
- บริการตรวจสอบและการประเมินโครงการวิศวกรรม
- บริการให้คําปรึกษา ออกแบบรายละเอียดของโครงการวิศวกรรม
- บริการฝึกอบรมความรู้ด้านวิศวกรรม
1.2 การวิเคราะห์โซ่อุปทาน
- การดําเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมและเครื่องจักร รวมท้ัง
- การบํารุงรักษา
- บริการจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์
- บริการติดต้ังและทดสอบระบบงาน
- บริการศึกษาแผนงานและความเป็นไปได้ของโครงการวิศวกรรม
- บริการตรวจสอบและการประเมินโครงการวิศวกรรม
- บริการให้คําปรึกษา ออกแบบรายละเอียดของโครงการวิศวกรรม
- บริการฝึกอบรมความรู้ด้านวิศวกรรม
โครงสร่างตลาดผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมในไทยมีทั้งผู้ให้บริการท่ีเป็น
ต่างชาติและไทย ทั้งรายใหญ้และรายย่อย ซึ่งแบ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม
โยธาและโครงสร่าง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่ปรึกษาด้านไฟฟ้า ที่ปรึกษา
ด้านพลังงาน ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาด้านระบบนํ้าและสุขาภิบาล
ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมทั่วไป ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล ท่ีปรึกษาด้านโทรคมนาคม และที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมขนส่ง ซึ่งมีจํานวนรวมกันประมาณ 300
บริษัท ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดย่อมที่มีลูกจ้างวิศวกร 1-10 คน (ร้อยละ
65.61) สําหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีลูกจ้างวิศวกรเกิน 100 คนมีเพียง 5 รายเท่านั้น
ทั้งนี้ประมาณร้อยละ 26 (79 ราย) เป็นบริษัทที่ต่างชาติเข่ามาถือหุ้นและดําเนินการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญี่ปุ่น ลําดับต่อมาคือ เยอรมนี สาธารณรัฐเกาหลี และ
สหราชอาณาจักร ส่วนธุรกิจท่ีเข้ามา ภายใต้สนธิสัญญาไมตรีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ
มีเพียง 4 ราย
1.2 การวิเคราะห์โซ่อุปทาน
งานวิศวกรรม เป็นงานที่มีความซับซ้อนและเก่ียวข้องกับเทคนิคต่างๆ
มากมาย การบริหารงานจําเป่นต้องใช้ความรู้ด้านต่างๆ ในการทํางาน งานวิศวกรรม
สามารถแบ่งได้เป็นประเภทหลักๆ ดังนี้ งานออกแบบติดตั้งและวางระบบ และ
งานซ่อมบํารุง โดยงานท้ังสองแบบนี้จําแนกย่อยได้ตามประเภทและสาขาของ
วิศวกรรม เช่น วิศวกรรมเครื่องกล อุตสาหการ เคมี เป็นต้น จากธุรกิจที่เกี่ยวข่องกับ
งานวิศวกรรมข้างต้น ลูกค้าของงานวิศวกรรมสามารถเป็นได้ท้ังภาครัฐและผู้ประกอบ
เอกชนรายใหญ่และรายย่อย ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมส่วนใหญ่ใน
ประเทศไทยเน้นท่ีการออกแบบและติดตั้งระบบ ซึ่งในการออกแบบและติดต้ังระบบ
นั้นต้องอาศัยการเลือกเทคโนโลยีหรือสินค้าที่จะนํามาให้บริการแก่ลูกค้า
ผู้จัดจําหน่ายอาจเป็นบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีหรืออาจจะเป็นผู้ประกอบการ
ที่สั่งซื้อเทคโนโลยีหรือสินค้ามา แล้วทําเฉพาะการจัดจําหน่ายให้แก่บริษัทผู้ออกแบบ
และติดตั้งระบบ ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมจะเป็นบริษัทผู้ออกแบบระบบและ
ติดต้ัง โดยเฉพาะซึ่งรับงานมาจากผู้รับเหมา หรืออาจเป็นบริษัทที่อยู่ในรูปแบบที่เป็น
ผู้รับเหมาโครงการก็ได้ (ดูรูปท่ี 1)
รูปที่ 1 : โซ่อุปทานของธุรกิจวิศวกรรม
ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี/ผู้จัดจําหน่าย
ผู้รับเหมาหลัก
ผู้พักอาศัยและผู้ประกอบธุรกิจ
ผู้พักอาศัยและผู้ประกอบธุรกิจ ได้แก่ ประชาชนที่ต้องการบ้านพักอาศัย รูปแบบต่างๆ และประชาชนที่ต้องการอาคารสถานที่เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ
ความต้องการที่พักอาศัยและสถานประกอบการ เริ่มมาจากความต้องการของ
ประชาชนในด้านต่างๆ ลูกค้าของธุรกิจให้บริการทางวิศวกรรมประกอบด้วยหน่วยงาน
รัฐบาล สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชน ส่วนแบ่งหลักของลักษณะการให้บริการ
ของธุรกิจบริการวิศวกรรมในประเทศไทยคือ การรับเหมาโครงการ โดยส่วนมากลูกค้า
จะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีความไว้วางใจในผู้ประกอบการ โครงการต่างๆ เช่น โครงการ
ระบบขนส่งมวลชน โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า งานก่อสร้างในภาครัฐ และโครงการ
ก่อสร้างในกลุ่มปิโตรเคมีและพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมท่ีมีการขยายตัวอย่าง
ต่อเนื่อง เนื่องจากประเภทของลูกค้าและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
การตอบสนองกลุ่มความหลากหลายของลูกค้าสามารถสร่างผลกําไรที่เพิ่มขึ้นให้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจ
ผู้บริหารโครงการ ผู้บริหารโครงการ ได้แก่ รัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐหลักๆ เช่น กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ หรือเอกชน ซึ่งคือบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ทําหน้าที่กําหนด
และดําเนินโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน สําหรับกลุ่มผู้บริหาร
โครงการของธุรกิจก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคืองานก่อสร้างภาครัฐและ
ภาคเอกชน
โดยปกติการกําหนดสัดส่วนรายได้ที่แน่นอนระหว่างลูกค้า 2 กลุ่มนี้ทําได้ ค่อนข้างยาก เนื่องจากรูปแบบของธุรกิจประเภทนี้จะมีลักษณะงานเป็นรายโครงการ
มีการเปิดประมูลงานในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน กล่าวคือ ประเภทของลูกค้าของบริษัทฯ
ณ ขณะใดขณะหน่ึงจะขึ้นอยู่กับรูปแบบงานในแต่ละโครงการและช่วงเวลาท่ีเปิด
ประมูล ในระหว่างปี 2548 อุตสาหกรรมก่อสร้างของภาคเอกชนมีการขยายตัวสูง
และเริ่มมีการชะลอตัวในช่วงปลายปี 2549 ขณะที่งบประมาณการก่อสร้างของ
ภาครัฐมีการชะลอตัว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของรัฐบาลอัน
เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตามจากลักษณะโครงการ
ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าแนวโน้มและความต้องการของลูกค้ายังมีอยู่ในระดับท่ีสูง
พอสมควร นั่นแสดงถึงโอกาสทางธุรกิจ
ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี/ผู้จัดจําหน่าย
ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมส่วนมากจะเป็นผู้ผลิตจากต่างชาติ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมของไทยส่วนมากจะทําการพัฒนาเทคโนโลยีที่มี
ความซับซ้อนไม่มากนักหรือเป็นเทคโนโลยีที่ออกสู่ตลาดมานานแล้ว ผู้ผลิตและ
พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมส่วนมากจะทําการจัดจําหน่ายเทคโนโลยีที่ผู้ผลิตนั้น
ทําการพัฒนาขึ้นมาแก่ผู้ประกอบการในธุรกิจปลายน้ํา นั่นคือ ผู้รับเหมาโครงการ และ
ผู้ให้บริการวิศวกรรม
ผู้รับเหมาหลัก
ผู้รับเหมาหลักเป็นผู้บริหารและควบคุมให้โครงการดําเนินไปตามวัตถุประสงค์ซึ่งต้องการความรู้ในด้านต่างๆ เช่น การควบคุมสัญญา การควบคุมดูแล
เรื่องงบประมาณงาน การควบคุมกําหนดเวลาส่งมอบงานในแต่ละส่วน และ
การควบคุมด้านคุณภาพตามข้อกําหนด ผู้ออกแบบจะนําความคิดจากเจ้าของงานให้ เป็นรูปธรรมข้ึน ซึ่งอาศัยความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมระบบต่างๆ การจัดทํา ข้อกําหนดงานก่อสร้างทั้งหมด การประมาณราคาก่อสร้างเพื่อจัดทํางบประมาณ
ขั้นต้น ต่อมาผู้รับเหมาซึ่งประกอบไปด้วยทีมงานฝ่ายผลิตหรือติดตั้งที่ภาคสนามและ
ฝ่ายบริหารจัดการทั้งที่ภาคสนามและสํานักงานใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความสามารถดังนี้
- สําหรับฝ่ายบริหารจัดการของผู้รับเหมา จะทําหน้าที่บริหารและควบคุม
งบประมาณราคาอย่างละเอียด ดูแลงานจัดซื้อ งานจัดหาและจัดจ้างผู้รับเหมาช่วง
งานติดตามและควบคุมการดําเนินโครงการ งานบริหารจัดการทั่วไป งานบริหาร
ด้านการเงิน และงานบริหารเชิงกลยุทธ์
หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข่อง
- สําหรับฝ่ายบริหารจัดการของผู้รับเหมาที่ภาคสนาม จะทําหน้าที่
วางแผนและควบคุมการดําเนินงานให้เป็นไปตามแผน ทํางานร่วมกับช่างและคนงาน
หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข่อง
หน่วยงานหรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจวิศวกรรมสามารถสรุปในเชิงโซ่อุปทานของธุรกิจโดยรวมได้ดังน้ี
- ธุรกิจต้นน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนเทคโนโลยีวิศวกรรม ธุรกิจผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมหลัก
- ธุรกิจกลางน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจจัดจําหน่าย ธุรกิจออกแบบติดต้ังระบบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งผู้รับเหมาหลักและผู้รับเหมาย่อย ธุรกิจอุตสาหกรรม
ต่างๆ
- ธุรกิจปลายน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจตรวจสอบระบบ ซ่อมบํารุงและบริการ
สนับสนุน ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ธุรกิจจ้างงาน
การส่ังซื้อและการควบคุมสินค้าคลังของผู้ประกอบการบริการทางด้าน
วิศวกรรม มีความสําคัญต่อประสิทธิภาพการดําเนินงานของบริษัท ระบบการวางแผน
และจัดการทรัพยากรของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ทันสมัย ทําให้การสั่งซื้อและ
การหมุนเวียนสินค้ามีปัญหาซึ่งส่งผลไปที่ผลกําไรโดยรวมของบริษัท อีกประเด็นที่
สําคัญในโซ่อุปทานของธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมคือการติดต่อและดําเนินธุรกรรมกับบริษัทผู้จัดจําหน่ายตัวเทคโนโลยีหรือสินค้า จําเป็นต้องมีการนําเทคโนโลยีต่างๆ
เข้ามาช่วยเพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศและภายในประเทศมีประสิทธิภาพ
มากขึ้นและเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจได้ด้วย
โซ่อุปทานของธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมมีความแตกต่างกับโซ่ของธุรกิจ
แบบอื่นๆ ตรงท่ีซัพพลายเออร์มีบทบาทสําคัญต่อธุรกิจ แต่ในธุรกิจให้บริการด้าน
วิศวกรรมส่วนมากเป็นการให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบให้แก่ลูกค้าเลย
ซึ่งตัวสินค้าที่นําไปติดตั้งนั้นจะมาเป็น Finished product แล้ว การดําเนินงาน
วิศวกรรมประกอบด้วยส่วนงานที่มีความหลากหลายและใช้ความสามารถเฉพาะด้าน
ซึ่งผู้ประกอบการอาจไม่ได้มีความพร้อมในทุกแขนงของวิศวกรรม ดังนั้นธุรกิจ
ปลายน้ําซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมด้านอื่นๆ ธุรกิจให้บริการ
สนับสนุนต่างๆในด้านตรวจสอบ การจัดการทรัพยากรบุคคล จะถูกว่าจ้างจาก
ผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถบริหารโครงการและองค์กรได้อย่างสมบูรณ์