วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

คู่มือธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรม ตอนที่ 1

          สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้มาแบบวิชาการจัดเต็ม ผู้เขียนได้จัดเนื้อหาที่น่าสนในสำหรับผู้ที่สนในอยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งธุรกิจตัวแรกที่ผู้เขียนได้นำมาเสนอนั้น เป็นธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรม
โดยเนื้อหาที่จะนำเสนอนั้นแบ่งเนื้อหาออกเป็น
1. โครงสร้างทางธุรกิจ
2. สภาวะตลาดและแนวโน้มการแข่งขัน
3. คุณสมบัติของผู้ประกอบธุรกิจ
4. รูปแบบและขั้นตอนการจัดตั้งธุรกิจ
5. กระบวนการดำเนินงาน
6. ข้อมูลทางการเงิน
7. บทศึกษาเชิงกลยุทธ์แนวทางการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ
8. แนวทางการจัดทำมาตรฐาน

          ซึ่งผู้เขียนขอเริ่มด้วยหัวข้อแรก นั่นก็คือ

1. โครงสร้างทางธุรกิจ
1.1 ภาพรวมธุรกิจ
          ธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมหมายถึง การให้บริการที่ใช้ความรู้ การฝึกฝน และประสบการณ์ทางด้านวิศวกรรมโดยประยุกต์ใช็ความรู็ทางด้านคณิตศาสตร์และ วิทยาศาสตร์ในการให้คําปรึกษา วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบท้ังในส่วนโครงสร้าง ตัวอาคาร เครื่องจักร กระบวนการและขั้นตอนในการทํางาน เพื่อให้ตรงตามหลักการ ออกแบบและระเบียบข้อบังคับในด้านต่างๆ 

          ตามกรอบการจําแนกธุรกิจบริการตามองค์การการค้าโลก (WTO) ธุรกิจ ให้บริการวิศวกรรม จัดอยู่ในสาขาหลักที่ 1 สาขาบริการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจ (Business Services) ซึ่งในสาขานี้มีการจําแนกเป็นสาขาย่อยดังนี้ 
          (1) การบริการวิชาชีพเฉพาะด้าน (Professional Services) ด้านกฎหมาย ด้านบัญชี ด้านภาษี ด้านสถาปัตยกรรม ด้านวิศวกรรม ด้านผังเมือง ด้านการแพทย์ และทันตกรรม ด้านสัตววิทยา ด้านการพยาบาลและบําบัดทางแพทย้
           (2) การให้บริการด้านคอมพิวเตอร์ (Computer and Related Services) ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจให้คําปรึกษาติดตั้งฮาร์ดแวร์ การให้บริการติดตั้งซอฟท์แวร์ การให้บริการฐานข้อมูล
           (3) การให้บริการวิจัยและพัฒนา (Research and Development Services) ให้บริการในการวิจัยและพัฒนาด้านสังคม สิ่งแวดล้อม
           (4) การบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Services)
           (5) ธุรกิจเช้าซื้อ (Rental/Leasing Services) เป็นบริการเช่าพาหนะและ อุปกรณ์เครื่องจักรต่างๆ
           (6) ธุรกิจอื่นๆ (Other Business Services) เช่น ธุรกิจถ่ายภาพ ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ธุรกิจให้คําปรึกษาธุรกิจ เป็นต้น

ซึ่งธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมสามารถจําแนกเป็นสาขาย่อยได้ดังนี้ การให้คําปรึกษาด้านวิศวกรรม
          - บริการออกแบบโครงสร่างฐานรากอาคาร
          - บริการออกแบบเพื่อการติดตั้งเครื่องจักรสําหรับอาคาร
          - บริการออกแบบโครงสร่างเพื่องานวิศวกรรมโยธา
          - บริการออกแบบเพื่อการผลิตและอุตสาหกรรม
          - บริการต่างๆท่ีเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างและการติดตั้ง
          - บริการอื่นๆ เช่น ด้านการสํารวจธรณีวิทยาและทรัพยากรธรรมชาติ 
การบริการในธุรกิจให้บริการด่านวิศวกรรมส่วนใหญ่ครอบคลุม
          - การดําเนินงานติดตั้งระบบวิศวกรรมและเครื่องจักร รวมท้ัง
          - การบํารุงรักษา
          - บริการจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์
          - บริการติดต้ังและทดสอบระบบงาน
          - บริการศึกษาแผนงานและความเป็นไปได้ของโครงการวิศวกรรม
          - บริการตรวจสอบและการประเมินโครงการวิศวกรรม
          - บริการให้คําปรึกษา ออกแบบรายละเอียดของโครงการวิศวกรรม
          - บริการฝึกอบรมความรู้ด้านวิศวกรรม 

          โครงสร่างตลาดผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมในไทยมีทั้งผู้ให้บริการท่ีเป็น ต่างชาติและไทย ทั้งรายใหญ้และรายย่อย ซึ่งแบ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านวิศวกรรม โยธาและโครงสร่าง ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมไฟฟ้า ที่ปรึกษาด้านไฟฟ้า ที่ปรึกษา ด้านพลังงาน ที่ปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อม ที่ปรึกษาด้านระบบนํ้าและสุขาภิบาล ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมทั่วไป ที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมเครื่องกล ท่ีปรึกษาด้านโทรคมนาคม และที่ปรึกษาด้านวิศวกรรมขนส่ง ซึ่งมีจํานวนรวมกันประมาณ 300 บริษัท ทั้งนี้โดยส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนาดย่อมที่มีลูกจ้างวิศวกร 1-10 คน (ร้อยละ 65.61) สําหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีลูกจ้างวิศวกรเกิน 100 คนมีเพียง 5 รายเท่านั้น ทั้งนี้ประมาณร้อยละ 26 (79 ราย) เป็นบริษัทที่ต่างชาติเข่ามาถือหุ้นและดําเนินการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ญี่ปุ่น ลําดับต่อมาคือ เยอรมนี สาธารณรัฐเกาหลี และ สหราชอาณาจักร ส่วนธุรกิจท่ีเข้ามา ภายใต้สนธิสัญญาไมตรีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีเพียง 4 ราย

1.2 การวิเคราะห์โซ่อุปทาน
           งานวิศวกรรม เป็นงานที่มีความซับซ้อนและเก่ียวข้องกับเทคนิคต่างๆ มากมาย การบริหารงานจําเป่นต้องใช้ความรู้ด้านต่างๆ ในการทํางาน งานวิศวกรรม สามารถแบ่งได้เป็นประเภทหลักๆ ดังนี้ งานออกแบบติดตั้งและวางระบบ และ งานซ่อมบํารุง โดยงานท้ังสองแบบนี้จําแนกย่อยได้ตามประเภทและสาขาของ วิศวกรรม เช่น วิศวกรรมเครื่องกล อุตสาหการ เคมี เป็นต้น จากธุรกิจที่เกี่ยวข่องกับ งานวิศวกรรมข้างต้น ลูกค้าของงานวิศวกรรมสามารถเป็นได้ท้ังภาครัฐและผู้ประกอบ เอกชนรายใหญ่และรายย่อย ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมส่วนใหญ่ใน ประเทศไทยเน้นท่ีการออกแบบและติดตั้งระบบ ซึ่งในการออกแบบและติดต้ังระบบ นั้นต้องอาศัยการเลือกเทคโนโลยีหรือสินค้าที่จะนํามาให้บริการแก่ลูกค้า ผู้จัดจําหน่ายอาจเป็นบริษัทผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีหรืออาจจะเป็นผู้ประกอบการ ที่สั่งซื้อเทคโนโลยีหรือสินค้ามา แล้วทําเฉพาะการจัดจําหน่ายให้แก่บริษัทผู้ออกแบบ และติดตั้งระบบ ผู้ให้บริการด้านวิศวกรรมจะเป็นบริษัทผู้ออกแบบระบบและ ติดต้ัง โดยเฉพาะซึ่งรับงานมาจากผู้รับเหมา หรืออาจเป็นบริษัทที่อยู่ในรูปแบบที่เป็น ผู้รับเหมาโครงการก็ได้ (ดูรูปท่ี 1)


รูปที่ 1 : โซ่อุปทานของธุรกิจวิศวกรรม







ผู้พักอาศัยและผู้ประกอบธุรกิจ
          ผู้พักอาศัยและผู้ประกอบธุรกิจ ได้แก่ ประชาชนที่ต้องการบ้านพักอาศัย รูปแบบต่างๆ และประชาชนที่ต้องการอาคารสถานที่เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจ ความต้องการที่พักอาศัยและสถานประกอบการ เริ่มมาจากความต้องการของ ประชาชนในด้านต่างๆ ลูกค้าของธุรกิจให้บริการทางวิศวกรรมประกอบด้วยหน่วยงาน รัฐบาล สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชน ส่วนแบ่งหลักของลักษณะการให้บริการ ของธุรกิจบริการวิศวกรรมในประเทศไทยคือ การรับเหมาโครงการ โดยส่วนมากลูกค้า จะเป็นกลุ่มลูกค้าเดิมที่มีความไว้วางใจในผู้ประกอบการ โครงการต่างๆ เช่น โครงการ ระบบขนส่งมวลชน โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า งานก่อสร้างในภาครัฐ และโครงการ ก่อสร้างในกลุ่มปิโตรเคมีและพลังงาน ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมท่ีมีการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่อง เนื่องจากประเภทของลูกค้าและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การตอบสนองกลุ่มความหลากหลายของลูกค้าสามารถสร่างผลกําไรที่เพิ่มขึ้นให้แก่ ผู้ประกอบธุรกิจ 


ผู้บริหารโครงการ          ผู้บริหารโครงการ ได้แก่ รัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐหลักๆ เช่น กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ หรือเอกชน ซึ่งคือบริษัทเอกชนต่างๆ ที่ทําหน้าที่กําหนด และดําเนินโครงการเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน สําหรับกลุ่มผู้บริหาร โครงการของธุรกิจก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคืองานก่อสร้างภาครัฐและ ภาคเอกชน 

          โดยปกติการกําหนดสัดส่วนรายได้ที่แน่นอนระหว่างลูกค้า 2 กลุ่มนี้ทําได้ ค่อนข้างยาก เนื่องจากรูปแบบของธุรกิจประเภทนี้จะมีลักษณะงานเป็นรายโครงการ มีการเปิดประมูลงานในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน กล่าวคือ ประเภทของลูกค้าของบริษัทฯ ณ ขณะใดขณะหน่ึงจะขึ้นอยู่กับรูปแบบงานในแต่ละโครงการและช่วงเวลาท่ีเปิด ประมูล ในระหว่างปี 2548 อุตสาหกรรมก่อสร้างของภาคเอกชนมีการขยายตัวสูง และเริ่มมีการชะลอตัวในช่วงปลายปี 2549 ขณะที่งบประมาณการก่อสร้างของ ภาครัฐมีการชะลอตัว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินของรัฐบาลอัน เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง อย่างไรก็ตามจากลักษณะโครงการ ดังกล่าว จะเห็นได้ว่าแนวโน้มและความต้องการของลูกค้ายังมีอยู่ในระดับท่ีสูง พอสมควร นั่นแสดงถึงโอกาสทางธุรกิจ 


ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี/ผู้จัดจําหน่าย
          ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมส่วนมากจะเป็นผู้ผลิตจากต่างชาติ ผู้พัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมของไทยส่วนมากจะทําการพัฒนาเทคโนโลยีที่มี ความซับซ้อนไม่มากนักหรือเป็นเทคโนโลยีที่ออกสู่ตลาดมานานแล้ว ผู้ผลิตและ พัฒนาเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมส่วนมากจะทําการจัดจําหน่ายเทคโนโลยีที่ผู้ผลิตนั้น ทําการพัฒนาขึ้นมาแก่ผู้ประกอบการในธุรกิจปลายน้ํา นั่นคือ ผู้รับเหมาโครงการ และ ผู้ให้บริการวิศวกรรม 


ผู้รับเหมาหลัก
          ผู้รับเหมาหลักเป็นผู้บริหารและควบคุมให้โครงการดําเนินไปตามวัตถุประสงค์ซึ่งต้องการความรู้ในด้านต่างๆ เช่น การควบคุมสัญญา การควบคุมดูแล เรื่องงบประมาณงาน การควบคุมกําหนดเวลาส่งมอบงานในแต่ละส่วน และ การควบคุมด้านคุณภาพตามข้อกําหนด ผู้ออกแบบจะนําความคิดจากเจ้าของงานให้ เป็นรูปธรรมข้ึน ซึ่งอาศัยความรู้ความสามารถด้านวิศวกรรมระบบต่างๆ การจัดทํา ข้อกําหนดงานก่อสร้างทั้งหมด การประมาณราคาก่อสร้างเพื่อจัดทํางบประมาณ ขั้นต้น ต่อมาผู้รับเหมาซึ่งประกอบไปด้วยทีมงานฝ่ายผลิตหรือติดตั้งที่ภาคสนามและ ฝ่ายบริหารจัดการทั้งที่ภาคสนามและสํานักงานใหญ่ ซึ่งต้องอาศัยความสามารถดังนี้
           - สําหรับฝ่ายบริหารจัดการของผู้รับเหมา จะทําหน้าที่บริหารและควบคุม งบประมาณราคาอย่างละเอียด ดูแลงานจัดซื้อ งานจัดหาและจัดจ้างผู้รับเหมาช่วง งานติดตามและควบคุมการดําเนินโครงการ งานบริหารจัดการทั่วไป งานบริหาร ด้านการเงิน และงานบริหารเชิงกลยุทธ์
           - สําหรับฝ่ายบริหารจัดการของผู้รับเหมาที่ภาคสนาม จะทําหน้าที่ วางแผนและควบคุมการดําเนินงานให้เป็นไปตามแผน ทํางานร่วมกับช่างและคนงาน

หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข่อง
          หน่วยงานหรือธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจวิศวกรรมสามารถสรุปในเชิงโซ่อุปทานของธุรกิจโดยรวมได้ดังน้ี
- ธุรกิจต้นน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจผลิตและพัฒนาชิ้นส่วนเทคโนโลยีวิศวกรรม ธุรกิจผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมหลัก

- ธุรกิจกลางน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจจัดจําหน่าย ธุรกิจออกแบบติดต้ังระบบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั้งผู้รับเหมาหลักและผู้รับเหมาย่อย ธุรกิจอุตสาหกรรม ต่างๆ 

- ธุรกิจปลายน้ํา ประกอบด้วย ธุรกิจตรวจสอบระบบ ซ่อมบํารุงและบริการ สนับสนุน ธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ธุรกิจจ้างงาน 

          การส่ังซื้อและการควบคุมสินค้าคลังของผู้ประกอบการบริการทางด้าน วิศวกรรม มีความสําคัญต่อประสิทธิภาพการดําเนินงานของบริษัท ระบบการวางแผน และจัดการทรัพยากรของผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ทันสมัย ทําให้การสั่งซื้อและ การหมุนเวียนสินค้ามีปัญหาซึ่งส่งผลไปที่ผลกําไรโดยรวมของบริษัท อีกประเด็นที่ สําคัญในโซ่อุปทานของธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมคือการติดต่อและดําเนินธุรกรรมกับบริษัทผู้จัดจําหน่ายตัวเทคโนโลยีหรือสินค้า จําเป็นต้องมีการนําเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยเพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างประเทศและภายในประเทศมีประสิทธิภาพ มากขึ้นและเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจได้ด้วย
          โซ่อุปทานของธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมมีความแตกต่างกับโซ่ของธุรกิจ แบบอื่นๆ ตรงท่ีซัพพลายเออร์มีบทบาทสําคัญต่อธุรกิจ แต่ในธุรกิจให้บริการด้าน วิศวกรรมส่วนมากเป็นการให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบให้แก่ลูกค้าเลย ซึ่งตัวสินค้าที่นําไปติดตั้งนั้นจะมาเป็น Finished product แล้ว การดําเนินงาน วิศวกรรมประกอบด้วยส่วนงานที่มีความหลากหลายและใช้ความสามารถเฉพาะด้าน ซึ่งผู้ประกอบการอาจไม่ได้มีความพร้อมในทุกแขนงของวิศวกรรม ดังนั้นธุรกิจ ปลายน้ําซึ่งประกอบด้วย ธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรมด้านอื่นๆ ธุรกิจให้บริการ สนับสนุนต่างๆในด้านตรวจสอบ การจัดการทรัพยากรบุคคล จะถูกว่าจ้างจาก ผู้ประกอบการเพื่อให้สามารถบริหารโครงการและองค์กรได้อย่างสมบูรณ์


วันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ข้อคิดจาก คดีเปรี้ยว

สวัสดีครับเพื่อนๆ ห่างหายไปนาน เนื่องด้วย งานประจำที่ทำอยู่ มีความรีบเร่ง จนทำให้ผู้เขียนเอง ไม่มีเวลามากพอที่จะมาทำในสิ่งที่ตั้งใจ นั้นก็คือ การเขียน blog เพื่อให้เพื่อนๆได้ติดตาม และ วันนี้ ได้อ่านเจอ บทความที่คิดว่าดี มากๆ และน่าจะเป็นประโยชน์ ต่อสังคม และน่าเก็บไว้ จึงนำมาให้เพื่อนๆได้อ่านกัน
นั่นก็คือ ข้อคิด จากคดีเปรี้ยว
ดูๆแล้วหลายท่านอาจจะยังสงสัย ว่า blog ของเรา และเนื้อหา ที่ไม่สอดคล้องกันเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรครับ อยากให้อ่านเพื่อเป็นแง่คิดดีๆที่อาจหลงลืมไป

"ไม่รู้ว่าใครเขียน... แต่เขียนได้ดีมาก !

!!#คดีเปรี้ยว ฆ่าสังหาร คนไทยอ่านข่าวเสพความรุนแรง เหมือนกับติดตามตอนต่อไปของหนัง!!
แต่ถ้าเราจะถามว่า เปรี้ยว กลายเป็นผลผลิตของสังคมไทย ของครอบครัวและมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
เราคงจะได้ "สติ" และ "ข้อเตือนใจ" ไปใช้มากกว่าแค่เสพดราม่า
และมันจะเป็นแนวทางว่า สังคมไทย ราชการ และพวกเรา จะป้องกัน ไม่ให้มีเปรี้ยวเกิดขึ้นในสังคมได้อีกอย่างไร ?
- สาวบ้านนอก พ่อแม่หาเช้ากินค่ำ มีลูกตั้งแต่อายุ 12-15 ปี ใช้เรือนร่างทำมาหากิน เสพติดโซเชี่ยว ชอบโชว์ อยากได้อยากมี อยากอวดของดี อยากมีบ้าน อยากหรูหรา อยากสวย อยากๆๆๆ
- น่าจะโตมาในครอบครัว ที่พ่อแม่ชนชั้นทำมาหากิน แต่ไม่สอนลูก สอนไม่เป็น เพราะตัวเอง ก็ไม่เคยถูกสอน ไม่เคยเรียน มีแต่ตามใจลูก 
ลูกเรียนไม่เก่ง เพราะตัวเอง ไม่ได้เคี่ยวเข็ญให้เรียน ส่งเสริมการเรียนลูกไม่เป็น
ไม่ชี้นำให้ลูกทำมาหากินสุจริต เพราะรู้ว่ามันเหนื่อย มันลำบาก ไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเอง จึงปิดหูปิดตาไม่รับรู้ความจริง ว่าที่ลูกมีเงินมีกินมีใช้ฟู่ฟ่านั้น ลูกทำงานอะไร? 
แต่ลูกเป็นผู้หญิง พอมีหน้าตาเป็นสมบัติ จะทำมาหากินด้วยเรือนร่าง ก็ไม่เป็นไร ไม่เคยห้ามปราม ขอให้ช่วยยกระดับทางบ้านได้ สร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่ได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เป็นคนดีของครอบครัวแล้ว
- น่าจะโตมาในครอบครัว ที่ไม่สอนเรื่องเพศศึกษา ว่าเป็นเรื่องควรสงวน หลายๆ ครั้งในครอบครัวทำมาหากิน ความสุขความบันเทิงเดียว จนมีลูกเต็มบ้าน ก็เพราะมืดมา มีความบันเทิงเดียวที่ราคาถูก คือ การร่วมเพศ -- 
ดังนั้น กลุ่มนี้ จะไม่ปกปิดเรื่องเพศ มองเรื่องเพศเป็นเรืองธรรมดา เปิดเผยกับเด็กๆ และไม่เคร่งครัด ทำให้เด็กโตมาเป็นคนไม่อนุรักษ์นิยมในเรื่องเพศ
ชอบโชว์เพราะอะไร? 
- โตมาในสังคม ที่ครีมสเตียรอยด์ และยาพิษ หาซื้อง่าย แค่ไลน์ ก็ส่งของมาถึงหน้าบ้าน และโตมาในยุคที่คลีนิคศัลยกรรมเกลื่อนเมือง -- 
ดังนั้น จึงไม่แปลก ที่หญิงสาวจะขาวใส ผิดผิวพ่อผิวแม่ เพราะแค่กินกลูต้าที่ขายกันโครมๆ ก็ขาวซีดแล้ว + แค่กินยาลดความอ้วน ก็ผอมแล้ว + แค่ไม่กี่พัน ก็ได้ดั่งโด่งๆ + เพิ่มเงินอีกนิด ก็ได้นมคู่โต + ไม่ต้องพูดถึงบิ๊กอายตาโต หรือขนตาเด้งงอน -- 
ความงามที่เสกได้ ขอแค่มีเงิน -- เพียงเท่านี้ ก็สามารถยกระดับตัวเอง + การใส่เสื้อผ้าราคาแพง = ก็ (คิดว่า) เข้าสู่สังคมชนชั้นสูงกว่าที่ตนเคยเป็นได้
-  แต่พวกเขา ก็ไม่สามารถลืมพ้นกำพืดกู-มึง + ถึงจะยืมคำคมเก๋ๆ ปลุกใจมาใช้ แต่ก็ไม่ได้ฉลาดในชีวิตจริงมากพอ ที่จะพาตัวเอง พ้นวงการเด่นดัง ด้วยรอยสัก ไลฟ์โชว์ ภาษาพ่อขุน ยาเสพติด การมั่วเพศ โชว์ความเหนือด้วยความใจกล้า 
เทคนิคพวกนี้ เป็นสิ่งที่เลียนแบบไม่ยากในยุคที่เน็ตไอดอล คือ เก่ง ลายพราง เพราะรัฐบาล กำลังขึ้นทะเบียนสื่อมวลชน แต่ไม่ได้จัดการกับการเผยแพร่อัตลักษณ์ที่รุนแรงเหล่านี้ได้เลย
เยาวชนกำลังเลียนแบบ และมองเป็นสิ่งโก้เก๋ เป็นวัฒนธรรมของยุคสมัย 
- หันมามองสื่อเองบ้าง การยกยอว่า "เน็ตไอดอล" คือ อายุน้อยร้อยล้าน ที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจลดความอ้วน เพราะเกาะกระแสทัน + ปรับตัวรับกระแสขายของออนไลน์ได้ เป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวมาก 
เมื่อสื่อ ลืมไปว่า ความสำเร็จที่แท้จริง อยู่ที่การใจกล้าหน้าด้าน ขายยาพิษ ให้แก่ผู้บริโภค ราคาแพง โดยไม่มียางอาย โดยที่รัฐบาลก็ไม่ปราบปรามอย่างเป็นรูปธรรม
- นี่คือ ผู้ร่วมกับผลิต "เปรี้ยว" ให้แก่สังคมไทย
หากเราจะร่วมกันเสพละครดราม่าเรื่องอีเปรี้ยว สวยสามจี อัปรีย์ทั้งชาติ ก็ขอให้เราร่วมกันช่วยขบคิดถึงตัวละครตัวต่อไป ที่อาจจะน่ากลัวกว่าเปรี้ยวกันเถอะ
และเปรี้ยว 2 มันใกล้ตัวกว่าที่เราคิด
และเราจะหยุดมันได้อย่างไร หากเราไม่เรียนรู้กับมัน
สิ่งที่น่ากลัวคือ เรามีคนอย่างเปรี้ยวมากมายเต็มโซเชียล ที่ยังไม่ได้เผลอไปฆ่าหั่นศพใคร แต่พฤติกรรมตอนนี้ไม่ได้แตกต่างจากเปรี้ยว ก่อนกระทำผิดเลย
และเขาก็เป็นเพื่อนกับเราใน facebook!
.............
ปล. เราจะมีส่วนช่วยไม่ให้เกิดเปรี้ยว 2 ในสังคมไทยได้อย่างไร
1.เลิกเถอะ การเห็นคนดี เพราะมีเงิน ฝรั่งไม่มีขนาดบ้านเราเลย ไปไหนก็พูดแต่เรื่องเงิน วัดกันแต่เงิน
2. ให้คุณค่ากับคนที่คุณค่าความดี ตัวตนของเขา มากกว่าหน้าตาดี มากกว่าแต่งตัวดี มากกว่ามีแบรนด์เนม
3. ทำบุญกับการศึกษาของคนที่ชนชั้นหาเช้ากินค่ำเถอะ วัดที่เน้นวัตถุ เครื่องรางของขลัง ควรพอได้แล้ว คนเราคิดเป็น มีการศึกษา เอาตัวเองรอด
4. สื่อ เลิก support ครีมอันตราย และศัลยกรรม ที่พาให้วัยรุ่นหลงประเด็นว่า คุณภาพชีวิต โอกาสของชีวิต อยู่ที่หน้าตา โดยใช้คำว่า บุคลิกภาพเป็นตัวเบิกทางเถอะ -- ใครจะทำไม่ว่า แต่ไม่ต้องเสนอข่าวให้เป็นกระแสชี้นำ
5. ปราบปราบ ยาและเครื่องสำอางค์ที่เป็นพิษอย่างจริงจัง
6. ประการสำคัญ พ่อแม่สำคัญมาก -- ทำตัวน่าสงสาร ใสซื่อ แต่แฝงไปด้วยความเห็นแก่ตัว สร้างหนี้ อยากได้อยากมี แต่ไม่ดูความเป็นจริง // วินัยการเงินแย่ อยากให้ลูกเลี้ยงดูปูเสื่อ แต่ไม่ดูที่มาของเงิน อันนี้คือ ถ้าครอบครัวไม่ช่วยเตือนสติ ใครจะเตือนได้  
7. ตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน "เน็ตไอดอล" ของยุคนี้ ที่เราควรยกย่อง ควรมีดีกว่า โชว์สวย โชว์หรู // ตัวเราเองก็หยุดอวดสักทีเถอะ เรามี เราโชว์ เราบีบให้คนอื่นอยากมีอยากได้เหมือนเราหรือไม่ นี่คือคำถาม?
8. ยาเสพติด เรื่องนี้ คงไม่ต้องขยายความ
#ฝากเตือนสตินักข่าวบางคน โปรดอย่ามองว่าอาชกรรมเป็นบ่อทองของคุณ..
#แคปเขามา👍🏻👍🏻"

วันเสาร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หน้าที่ของวิศวกรงานก่อสร้าง ต้องทำอะไรบ้าง

หลายคนที่จบมาใหม่ คงมีคำถามมากมายว่า วิศวกรโครงการ เค้าทำอะไรกันบ้าง และในงานโครงการก่อสร้าง ต้องใช้วิศวกร อะไรบ้าง

เรามาดูกันครับ
          เริ่มต้นที่ วิศวกรสนาม หรือ จะเรียก Field Eng. เรียกตามตัวเลยครับ คือ วิศวกรที่เริ่มเข้ามาสู่สายงานก่อสร้าง ครั้งแรก เค้าจะให้เป็น Field Eng. ก่อน เพื่อเรียนรู้ หลักการทำงาน และ วัฒนธรรม ของการทำงานก่อสร้าง จากบรรดา ช่างทั้งหลาย วิศวกร กลุ่มนี้ คือ กลุ่มที่ต้องทำทุกอย่างตามคำสั่งของ บรรดา นายช่าง และ นายช่างใหญ่ ทั้งหลาย และ เป็นกลุ่มที่ ต้องศึกษาหาความรู้จาก ช่างหน้างาน และต้องเข้าใจและจดจำ ในขั้นตอนการทำงาน นั้นเพื่อ เก็บเป็น ประสบการณ์ เพื่อใช้ ในการวางแผนงาน และจัดกำลังพล กันต่อไป แรกๆก็เหนื่อยครับ แต่ต้องใช้เวลา แต่ผู้เขียนเองคิดว่า คุ้มครับ
          และยิ่งงานที่มันยากๆ ผู้เขียนแนะนำว่าอย่ากลัวครับ เพราะงานที่ยาก และไม่มีใครทำ ถ้าเราทำได้ มันจะเป็นความรู้และความภาคภูมิใจ ติดตัวเราตลอดได้

คืนนี้ขอพอแค่นี้นะครับ พรุ่งนี้ มาจะมาเล่าสู่กันฟังใหม่ ถึง วิศวกรอีกกลุ่ม ที่เค้าเรียกว่า วิศวกรโครงการ หรือ Project Eng.

ส่วนหน้าที่ และ ขั้นตอนการทำงาน ผู้เขียนจะค่อยๆ นำเสนอต่อไปนะครับ

คือนี้ ฝันดีครับ

วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โปรแกรม AutoCad Plant 3D

ก่อนนอนคืนนี้เรามาทำความรู้จักกับ โปรแกรมเขียนแบบ งานระบบท่ออุตสาหกรรม AutoCad Plant 3D

          AutoCad Plant 3D เป็นแอปพลิเคชั่น ที่ใช้ในการขึ้นงานโครงการแบบ 3 มิติ และเก็บข้อมูลของงานทั้งหมดไว้ในฐานข้อมูลโปรแกรม ที่ใช้ชื่อว่า Project Manager แผงควบคุมงานโครงการนี้ จะช่วยให้เรา สามารถเข้าถึง ขอมูลของงานเขียนแบบ ทั้งหมดของโครงการ และมีโครงการตัวอย่างเพื่อให้เราได้ศึกษา ก่อนลงมือปฏิบัติจริงอีกด้วย โดยการคลิกที่หน้า Start Project ก็จะมี โครงการตัวอย่างให้ได้เรียนรู้กัน
         และในส่วนของ Project Manager จะประกอบด้วย P&ID Drawing, Plant 3D Drawing และ Related Files ซึ่งทั้งหมด จะอยู่ในโหมด Source Files
         ส่วน ข้อมูลเพิ่มเติมที่จะต้องใช้ ก็จะเป็น Spreadsheets และนอกจากนั้น ตัวโหมดการทำงานที่นอกเหนือจาก Source Files ยังมี Orthographic DWG และ Isometric DWG ซึ่ง ในโหมดการใช้งานของ Orthographic DWG จะเป็น Plan view และ elevation ส่วนของ Isometric DWG ก็จะประกอบด้วย Isometric Drawing และ Spool Drawing ซึ่งทั้งหมดจะต้องใช้รวมกันเพื่อสร้างเป็น โมเดลงาน 3 มิติ

สำหรับคืนนี้ คงจะพอแค่นี้ก่อนนะครับ เอาไว้โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง ครับ

ฝันดีนะครับ

แนะนำตัว

          สวัสดีครับ เพื่อนๆ วันนี้เป็นวันที่ผมจะทำการสร้าง blog เป็นของตัวเองเป็นวันแรก โดย ชื่อ blog ของผมชื่อ "วิศวะรับจ้าง" ที่ตั้งอย่างนี้ เนื่องด้วยผมเป็น วิศวกร เครื่องกล และทำงานสายงานก่อสร้าง และได้เห็น แต่ สาขาวิชาอื่นๆในสายงาน ก่อสร้าง ได้นำข้อมูลและประสบการณ์ในการทำงานมาเล่าสู่เพื่อนๆในสายงานของตัวเอง อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่งานที่ผมทำอยู่ยังมีน้อย นั่นคือ งานระบบโรงงานอุตสาหกรรม และงานก่อสร้างงานระบบ ดังนั้น จึงมีความตั้งใจที่จะนำเอา ประสบการณ์ที่ผมได้ทำงาน มาเป็นเนื้อหา ใน blog ของผม
          และขอเชิญชวนเพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ มาเล่าเรื่องราวการทำงานที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่อยากจะเข้ามาทำงานในสายงานก่อสร้าง ได้รู้จักให้มากขึ้น

หมายเหตุ: blog นี้ ขอคุยเฉพาะเรื่องงาน ระบบ งานออกแบบ งานเขียนแบบ และ งานควบคุมงานก่อสร้างนะครับ ส่วนผู้รับเหมางานที่อยากจะเข้ามาเล่าประสบการณ์ งานก่อสร้าง ก็ยินดีเป็นอย่างมากนะครับ

ขอแสดงความยินดี ไว้ล่วงหน้านะครับ

ช่าง บัว
(SAMURAI)